


ปฎิทินวัฒนธรรม
ไหว้เจ้า ๙ ศาล เทศกาลกินเจสมุทรสาคร
จำนวนผู้ชม 1,725 ครั้ง

o๖
ต.ค. ๖๔
๑๔
ต.ค. ๖๔

o๖
ต.ค. ๖๔
๑๔
ต.ค. ๖๔

o๖
ต.ค. ๖๔
๑๔
ต.ค. ๖๔

o๖
ต.ค. ๖๔
๑๔
ต.ค. ๖๔




ประเพณีการถือศีลกินเจของจังหวัดสมุทรสาคร ถือเป็นวัฒนธรรมที่ได้รับการสืบต่อกันมาเป็นระยะเวลายาวนานควบคู่กับการตั้งถิ่นฐานของคนจีนในพื้นที่ซึ่งมีความสำคัญในฐานะเมืองท่าปากอ่าวไทยตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ส่งผลให้วัฒนธรรมจีน ซึ่งมีคติความเชื่อพิธีกรรมทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานเข้ามามีอิทธิพลอย่างแพร่หลาย จนเป็นประเพณีสำคัญประเพณีหนึ่งของจังหวัดสมุทรสาคร ดังปรากฎอยู่ในปฏิทินการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ในชื่องานประเพณี “ไหว้เจ้า ๙ ศาล เทศกาลกินเจสมุทรสาคร” โดยศาลเจ้าทั้ง ๙ แห่ง ตั้งอยู่ที่ตำบลมหาชัยและตำบลท่าฉลอม ได้แก่ ๑) ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ๒) โรงเจมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ๓) ศาลเจ้าปุนเถ้ากง คลองมหาชัย ๔) ศาลเจ้าแม่กวนอิมพันมือ คลองจาก ๕) ศาลเจ้าแม่จุ๋ยบ๋วยเนี้ย
ท่าฉลอม ๖) ศาลเจ้าโรงเจเซ็งเฮียงตั๊ว ท่าฉลอม ๗) ศาลเจ้าปุนเถ้ากง ท่าฉลอม ๘) ศาลเจ้าพ่อกวนอู ท่าฉลอม และ ๙) อุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิม ท่าฉลอม
ภายในงานของแต่ละศาลประกอบไปด้วยพิธีกรรมเซ่นไหว้สักการะบูชา และจำหน่ายอาหารเจหลากหลายชนิด บริเวณริมเขื่อนหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ซึ่งเป็นศาลที่เป็นประธานหลักของทั้ง ๙ ศาล และมีบริการรถรางรับส่งผู้ร่วมงานและนักท่องเที่ยวระหว่างแต่ละศาลเจ้าทั้ง ๙ ศาล
ศาลเจ้าโรงเจเซ็งเฮียงตั๊ว ตำบลท่าฉลอม ภายในโรงเจมีรูปปั้นเทพเจ้า ๙ องค์ หรือ “พระเจ้าเก้าพระองค์” เป็นไป ตามตำนานที่ผูกโยงกับความเชื่อในลัทธิขงจื้อ ซึ่งเน้นเรื่องบรรพชนและความกตัญญู เป็นการสักการะบูชาอดีตบูรพกษัตริย์องค์สำคัญซึ่งมีชีวิตอยู่ต่างยุคต่างสมัยกัน รวบรวมได้ ๙ พระองค์ หรือ “พระเจ้าเก้า พระองค์” ในภาษาจีนแต้จิ๋ว เรียกว่า “เก้าฮ้วงฮุกโจ้ว” เก้าฮ้วงฮุกโจ้ว ตามคติถือเป็นผู้วิเศษที่ตายแล้ว จุติมาเป็นดาวจระเข้เรียงกัน ๙ ดวง เป็นผู้ถือบัญชีรายชื่อมนุษย์ในโลกมนุษย์ สามารถต่ออายุแก่ผู้สิ้นอายุขัยให้ยืนยาวต่อไปได้ตามความต้องการ ชาวจีนจึงถือว่า ระหว่างวันขึ้น ๑ - ๙ ค่ำ เดือน ๙ ตามปฏิทินจีน เป็นช่วงของวันที่เก้าฮ้วงฮุดโจ้วลงมาตรวจสอบผู้คนยังโลกมนุษย์เพื่อจดบันทึก แล้วบันดาลให้เป็นไปตามกรรมดีกรรมชั่วของแต่ละคน ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนี้ ชาวจีนจึงพากันงดบริโภคอาหารจากเนื้อสัตว์ชั่วคราวด้วยการสมาทานรักษาศีล เพื่อแสดงว่าตนได้ประกอบกรรมดีให้พระเจ้าทรงเห็น และเมื่อถึงวันประกอบพิธีจะไปไหว้และสวดมนต์ที่โรงพิธีหรือโรงเจ เรียกว่า “เจตึ้ง” ซึ่งจะตกแต่งสถานที่ด้วยดอกไม้ จัดวางโต๊ะบูชา ตั้งกระถางธูป จัดวางเครื่องเซ่นไหว้ที่เป็นอาหารเจ พร้อมด้วยผลไม้ และจุดโคมไฟ ๙ ดวง สมมติให้เป็นตัวแทนเก้าฮ้วงฮุกโจ้ว แขวนไว้เป็นแถว โดยจุดไว้ตลอดระยะเวลา ๙ วัน ทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน เทศกาลกิจเจทั้ง ๙ วัน มีวันสำคัญที่ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ดังนี้
- วันขึ้น ๑ ค่ำ (ชิวอิก) ทำพิธีอัญเชิญฮุกโจ้ว
- วันขึ้น ๓ ค่ำ (ซิวซา) ทำพิธีไหว้ใหญ่ (ตั้วเจคี้)
- วันขึ้น ๖ ค่ำ (ชิวลัก) ทำพิธีไหว้ใหญ่ (ตั้วเจคี้) เวลา ๑๔.๐๐ น. ทำพิธีเวียนธูป
- วันขึ้น ๘ ค่ำ (ชิวโป๊ย) เวลา ๑๙.๐๐ น. ทำพิธีลอยกระทงและปล่อยเต่า เวลา ๒๑.๐๐ น. ประมูลของฮุกโจ้ว
- วันขึ้น ๙ ค่ำ (ชิวเก้า) ทำพิธีไหว้ใหญ่ (ตั้วเจคี้) เวลา ๑๔.๐๐ น. เซ่นไหว้วิญญาณไร้ญาติ เวลา ๑๖.๐๐ น. พิธีทิ้งกระจาด เวลา ๒๐.๐๐ น. ประมูลของ ฮุกโจ้ว เวลา ๐๒.๐๐ น. พิธีแห่ส่งฮุกโจ้ว
ข้อแตกต่างที่สำคัญของโรงเจเซ็งเฮียงตั๊วแห่งนี้ คือ ไม่มีการเข้าทรง ด้วยความเชื่อที่ว่าเทพเจ้า (ฮุกโจ้ว) ที่เสด็จมานี้เป็นแบบบุญฤทธิ์ ไม่ใช่อิทธิฤทธิ์ เหมือนโรงเจอื่น ๆ ดังนั้นในการรับเจ้าของศาลโรงเจแห่งนี้ จึงอัญเชิญด้วยวิธีการเสี่ยงทายทำนายเวลาที่เดินทางลงมาสู่โลกมนุษย์ และเมื่อพิธีกรรมการกินเจสิ้นสุดลงในคืนวันที่ ๙ ทางศาลเจ้าจะสร้างเรือกระดาษขนาดใหญ่ ภายในบรรจุข้าวของเครื่องใช้ที่ทำจากกระดาษ รวมทั้งประทัดและดอกไม้ไฟ จัดเป็นขบวนแห่ไปที่ริมน้ำหน้าวัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) เพื่อทำพิธีส่งเทพเจ้ากลับสู่สวรรค์ โดยทำพิธีเผาข้าวของเครื่องใช้ไปพร้อมกับเรือ ถือเป็นการสิ้นสุดเทศกาลกินเจ
ความโดดเด่นของงานประเพณีไหว้เจ้า ๙ ศาลและเทศกาล
กินเจ สมุทรสาคร นอกจากจะมีการรวมตัวของของผู้คนที่ถือศีลกินเจ งดเว้นเนื้อสัตว์ ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมอันดีงามแล้วยังแสดงออกถึงการร่วมมือในการประกอบพิธีกรรม โดยในวันที่ ๙ ของเทศกาลกินเจ มูลนิธิ/คณะกรรมการ โรงเจเซ็งเฮียงตั๊ว ตำบลท่าฉลอม และมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ตำบลมหาชัย จัดพิธีส่งเทพเจ้าเก้าฮ้วงฮุกโจ้ว ซึ่งได้อัญเชิญลงมาโลกมนุษย์ในช่วงเริ่มต้นของเทศกาลกินเจ ในพิธีส่งเทพเจ้ากลับสู่สวรรค์ โดยสร้างพาหนะเป็นเรือจำลอง ซึ่งมีความแตกต่างในรูปแบบทางศิลปะการสร้าง
แหล่งอ้างอิง:
ท่าฉลอม ๖) ศาลเจ้าโรงเจเซ็งเฮียงตั๊ว ท่าฉลอม ๗) ศาลเจ้าปุนเถ้ากง ท่าฉลอม ๘) ศาลเจ้าพ่อกวนอู ท่าฉลอม และ ๙) อุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิม ท่าฉลอม
ภายในงานของแต่ละศาลประกอบไปด้วยพิธีกรรมเซ่นไหว้สักการะบูชา และจำหน่ายอาหารเจหลากหลายชนิด บริเวณริมเขื่อนหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ซึ่งเป็นศาลที่เป็นประธานหลักของทั้ง ๙ ศาล และมีบริการรถรางรับส่งผู้ร่วมงานและนักท่องเที่ยวระหว่างแต่ละศาลเจ้าทั้ง ๙ ศาล
ศาลเจ้าโรงเจเซ็งเฮียงตั๊ว ตำบลท่าฉลอม ภายในโรงเจมีรูปปั้นเทพเจ้า ๙ องค์ หรือ “พระเจ้าเก้าพระองค์” เป็นไป ตามตำนานที่ผูกโยงกับความเชื่อในลัทธิขงจื้อ ซึ่งเน้นเรื่องบรรพชนและความกตัญญู เป็นการสักการะบูชาอดีตบูรพกษัตริย์องค์สำคัญซึ่งมีชีวิตอยู่ต่างยุคต่างสมัยกัน รวบรวมได้ ๙ พระองค์ หรือ “พระเจ้าเก้า พระองค์” ในภาษาจีนแต้จิ๋ว เรียกว่า “เก้าฮ้วงฮุกโจ้ว” เก้าฮ้วงฮุกโจ้ว ตามคติถือเป็นผู้วิเศษที่ตายแล้ว จุติมาเป็นดาวจระเข้เรียงกัน ๙ ดวง เป็นผู้ถือบัญชีรายชื่อมนุษย์ในโลกมนุษย์ สามารถต่ออายุแก่ผู้สิ้นอายุขัยให้ยืนยาวต่อไปได้ตามความต้องการ ชาวจีนจึงถือว่า ระหว่างวันขึ้น ๑ - ๙ ค่ำ เดือน ๙ ตามปฏิทินจีน เป็นช่วงของวันที่เก้าฮ้วงฮุดโจ้วลงมาตรวจสอบผู้คนยังโลกมนุษย์เพื่อจดบันทึก แล้วบันดาลให้เป็นไปตามกรรมดีกรรมชั่วของแต่ละคน ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนี้ ชาวจีนจึงพากันงดบริโภคอาหารจากเนื้อสัตว์ชั่วคราวด้วยการสมาทานรักษาศีล เพื่อแสดงว่าตนได้ประกอบกรรมดีให้พระเจ้าทรงเห็น และเมื่อถึงวันประกอบพิธีจะไปไหว้และสวดมนต์ที่โรงพิธีหรือโรงเจ เรียกว่า “เจตึ้ง” ซึ่งจะตกแต่งสถานที่ด้วยดอกไม้ จัดวางโต๊ะบูชา ตั้งกระถางธูป จัดวางเครื่องเซ่นไหว้ที่เป็นอาหารเจ พร้อมด้วยผลไม้ และจุดโคมไฟ ๙ ดวง สมมติให้เป็นตัวแทนเก้าฮ้วงฮุกโจ้ว แขวนไว้เป็นแถว โดยจุดไว้ตลอดระยะเวลา ๙ วัน ทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน เทศกาลกิจเจทั้ง ๙ วัน มีวันสำคัญที่ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ดังนี้
- วันขึ้น ๑ ค่ำ (ชิวอิก) ทำพิธีอัญเชิญฮุกโจ้ว
- วันขึ้น ๓ ค่ำ (ซิวซา) ทำพิธีไหว้ใหญ่ (ตั้วเจคี้)
- วันขึ้น ๖ ค่ำ (ชิวลัก) ทำพิธีไหว้ใหญ่ (ตั้วเจคี้) เวลา ๑๔.๐๐ น. ทำพิธีเวียนธูป
- วันขึ้น ๘ ค่ำ (ชิวโป๊ย) เวลา ๑๙.๐๐ น. ทำพิธีลอยกระทงและปล่อยเต่า เวลา ๒๑.๐๐ น. ประมูลของฮุกโจ้ว
- วันขึ้น ๙ ค่ำ (ชิวเก้า) ทำพิธีไหว้ใหญ่ (ตั้วเจคี้) เวลา ๑๔.๐๐ น. เซ่นไหว้วิญญาณไร้ญาติ เวลา ๑๖.๐๐ น. พิธีทิ้งกระจาด เวลา ๒๐.๐๐ น. ประมูลของ ฮุกโจ้ว เวลา ๐๒.๐๐ น. พิธีแห่ส่งฮุกโจ้ว
ข้อแตกต่างที่สำคัญของโรงเจเซ็งเฮียงตั๊วแห่งนี้ คือ ไม่มีการเข้าทรง ด้วยความเชื่อที่ว่าเทพเจ้า (ฮุกโจ้ว) ที่เสด็จมานี้เป็นแบบบุญฤทธิ์ ไม่ใช่อิทธิฤทธิ์ เหมือนโรงเจอื่น ๆ ดังนั้นในการรับเจ้าของศาลโรงเจแห่งนี้ จึงอัญเชิญด้วยวิธีการเสี่ยงทายทำนายเวลาที่เดินทางลงมาสู่โลกมนุษย์ และเมื่อพิธีกรรมการกินเจสิ้นสุดลงในคืนวันที่ ๙ ทางศาลเจ้าจะสร้างเรือกระดาษขนาดใหญ่ ภายในบรรจุข้าวของเครื่องใช้ที่ทำจากกระดาษ รวมทั้งประทัดและดอกไม้ไฟ จัดเป็นขบวนแห่ไปที่ริมน้ำหน้าวัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) เพื่อทำพิธีส่งเทพเจ้ากลับสู่สวรรค์ โดยทำพิธีเผาข้าวของเครื่องใช้ไปพร้อมกับเรือ ถือเป็นการสิ้นสุดเทศกาลกินเจ
ความโดดเด่นของงานประเพณีไหว้เจ้า ๙ ศาลและเทศกาล
กินเจ สมุทรสาคร นอกจากจะมีการรวมตัวของของผู้คนที่ถือศีลกินเจ งดเว้นเนื้อสัตว์ ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมอันดีงามแล้วยังแสดงออกถึงการร่วมมือในการประกอบพิธีกรรม โดยในวันที่ ๙ ของเทศกาลกินเจ มูลนิธิ/คณะกรรมการ โรงเจเซ็งเฮียงตั๊ว ตำบลท่าฉลอม และมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ตำบลมหาชัย จัดพิธีส่งเทพเจ้าเก้าฮ้วงฮุกโจ้ว ซึ่งได้อัญเชิญลงมาโลกมนุษย์ในช่วงเริ่มต้นของเทศกาลกินเจ ในพิธีส่งเทพเจ้ากลับสู่สวรรค์ โดยสร้างพาหนะเป็นเรือจำลอง ซึ่งมีความแตกต่างในรูปแบบทางศิลปะการสร้าง
