


ปฎิทินวัฒนธรรม
งานประเพณีแห่ช้างบวชนาคไทยพวน บ้านหาดเสี้ยว
จำนวนผู้ชม 279 ครั้ง

o๗
เม.ย. ๖๖
o๘
เม.ย. ๖๖
งานประเพณีแห่ช้างบวชนาคไทยพวน บ้านหาดเสี้ยว
วันที่ ๗ – ๘ เมษายน
สถานที่จัดงาน ณ วัดหาดเสี้ยว ตำบลหาดเสี้ยว อำเภอศรีสัชนาลัย
ประเพณีบวชช้างหรือที่เรียกว่า แห่ช้าง เป็นประเพณีของไทยพวนที่ปฏิบัติกนมานานแล้ว คือ การนำช้างมาร่วมในพิธีบรรพชาอุปสมบท มาจากคติความเชื่อทางพุทธศาสนาว่า พระเวสสันดรให้ช้างปัจจัยนาเคนทร์ อันเป็นช้างเผือกคู่บารมีที่ชาวเมือเชตุดรถือว่าเป็นมงคลหัตถีแก่พราหมณ์ทั้ง 8 จากแคว้นกลิงคราษฎร์ที่มาทูลขอเพื่อเป็นมงคลแก่บ้านเมืองที่ประสบทุพภิกขภัย แต่คนทั่วไปเข้าใจว่า อุดร หมายถึงทิศเหนือ ซึ่งมีสัญลักษณ์ คือ ช้าง ชาวไทยพวนจึงนำช้างมาเป็นส่วนร่วมในขบวนแห่มาจนทุกวันนี้ ก่อนวันบวชหนึ่งวัน สตรีชาวไทยพวนจะชวนกันไปบอกบุญหรือไหว้วานกันให้มาช่วยงานบวช วันที่สอง คือวันแห่นาค เจ้าภาพจะทำการ "แถ" หรือโกนผม โกนคิ้ว ผู้ที่จะบวชและตกแต่งตัวให้อย่างสวยงาม เครื่องแต่งกายของนาคประกอบด้วยผ้านุ่ง ผ้าม่วง ผ้าไหม สวมเสื้อกำมะหยี่หรือเครื่องนุ่งห่มที่แพรวพราว สวมเครื่องประดับเช่น เข็มขัดนาก เพชร พลอย อันมีความหมายถึงความหลงใหลในความงามของทรัพย์ภายนอกและพร้อมที่จะไปแสวงหาทรัพย์ภายใน (อริยทรัพย์) และสวมแว่นดำ มีความหมายว่า ยังเป็นผู้มืด เพราะยังไม่ได้ศึกษาพระธรรมวินัย ศีรษะสวมเทริด หรือเรียกว่า กระโจม อันเป็นเครื่องทรงของพระอินทร์ และเป็นสัญลักษณ์หงอนนาค กระจกที่ติดสองข้างหูเพื่อไว้สำรวจตัวเอง ระลึกถึงความหลังพร้อมที่จะสละ ประนมมือด้วยแผ่นหรือแป้นวงกลมเรียกว่า "สักกัจจัง" แปลว่า เครื่องหมายแห่งความเคารพ ถือเครื่องประดับและเครื่องบูชาต่าง ๆ เช่น ดอกไม้ ธูป เทียนเรียกว่า ขันธ์ 5 ร่มที่ใช้กางเป็นร่มใหญ่(สัปทน) มีหลายสี และให้นาคลูกแก้วขี่คอช้าง เพื่อแห่ไปยังวัดหาดเสี้ยว และจัดพิธีบวชพระวัดหาดเสี้ยวในเช้าวันต่อไป และมีกิจกรรมทำบุญ
ตักบาตร, ขบวนแห่นาคลูกแก้วนั่งอยู่บนหลังช้าง, การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น , จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง, การแต่งกายชุดผ้าทอพื้นเมือง
แหล่งอ้างอิง:
วันที่ ๗ – ๘ เมษายน
สถานที่จัดงาน ณ วัดหาดเสี้ยว ตำบลหาดเสี้ยว อำเภอศรีสัชนาลัย
ประเพณีบวชช้างหรือที่เรียกว่า แห่ช้าง เป็นประเพณีของไทยพวนที่ปฏิบัติกนมานานแล้ว คือ การนำช้างมาร่วมในพิธีบรรพชาอุปสมบท มาจากคติความเชื่อทางพุทธศาสนาว่า พระเวสสันดรให้ช้างปัจจัยนาเคนทร์ อันเป็นช้างเผือกคู่บารมีที่ชาวเมือเชตุดรถือว่าเป็นมงคลหัตถีแก่พราหมณ์ทั้ง 8 จากแคว้นกลิงคราษฎร์ที่มาทูลขอเพื่อเป็นมงคลแก่บ้านเมืองที่ประสบทุพภิกขภัย แต่คนทั่วไปเข้าใจว่า อุดร หมายถึงทิศเหนือ ซึ่งมีสัญลักษณ์ คือ ช้าง ชาวไทยพวนจึงนำช้างมาเป็นส่วนร่วมในขบวนแห่มาจนทุกวันนี้ ก่อนวันบวชหนึ่งวัน สตรีชาวไทยพวนจะชวนกันไปบอกบุญหรือไหว้วานกันให้มาช่วยงานบวช วันที่สอง คือวันแห่นาค เจ้าภาพจะทำการ "แถ" หรือโกนผม โกนคิ้ว ผู้ที่จะบวชและตกแต่งตัวให้อย่างสวยงาม เครื่องแต่งกายของนาคประกอบด้วยผ้านุ่ง ผ้าม่วง ผ้าไหม สวมเสื้อกำมะหยี่หรือเครื่องนุ่งห่มที่แพรวพราว สวมเครื่องประดับเช่น เข็มขัดนาก เพชร พลอย อันมีความหมายถึงความหลงใหลในความงามของทรัพย์ภายนอกและพร้อมที่จะไปแสวงหาทรัพย์ภายใน (อริยทรัพย์) และสวมแว่นดำ มีความหมายว่า ยังเป็นผู้มืด เพราะยังไม่ได้ศึกษาพระธรรมวินัย ศีรษะสวมเทริด หรือเรียกว่า กระโจม อันเป็นเครื่องทรงของพระอินทร์ และเป็นสัญลักษณ์หงอนนาค กระจกที่ติดสองข้างหูเพื่อไว้สำรวจตัวเอง ระลึกถึงความหลังพร้อมที่จะสละ ประนมมือด้วยแผ่นหรือแป้นวงกลมเรียกว่า "สักกัจจัง" แปลว่า เครื่องหมายแห่งความเคารพ ถือเครื่องประดับและเครื่องบูชาต่าง ๆ เช่น ดอกไม้ ธูป เทียนเรียกว่า ขันธ์ 5 ร่มที่ใช้กางเป็นร่มใหญ่(สัปทน) มีหลายสี และให้นาคลูกแก้วขี่คอช้าง เพื่อแห่ไปยังวัดหาดเสี้ยว และจัดพิธีบวชพระวัดหาดเสี้ยวในเช้าวันต่อไป และมีกิจกรรมทำบุญ
ตักบาตร, ขบวนแห่นาคลูกแก้วนั่งอยู่บนหลังช้าง, การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น , จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง, การแต่งกายชุดผ้าทอพื้นเมือง
