


ปฎิทินวัฒนธรรม
ส่งเสริมพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา
จำนวนผู้ชม 29 ครั้ง

๒๔
ก.พ. ๖๗
๒๕
ก.พ. ๖๗
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมงานส่งเสริมพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา
เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย การมีส่วนร่วมกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมในมิติศาสนา บำเพ็ญบุญกุศล เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ ซึ่งมีกิจกรรมสำคัญ ดังนี้
๑. การทำวัตรเช้า สวดมนต์ไหว้พระรัตนตรัย
๒. พิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันมาฆบูชา พุทธศักราช ๒๕๖๗
๓. การแสดงธรรมเทศนา ๑ กัณฑ์ โดย พระครูสุธีสุตสุนทร ดร. เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว พระอารามหลวง เรื่อง ความสำคัญของวันมาฆบูชา
๔. การถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์
๕. กิจกรรมปฏิบัติธรรม และรักษาศีล ทั้งในวัดและนอกพื้นที่
๖. การเจริญจิตภาวนา และแผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย
นอกจากนี้จะประกอบพิธีเวียนเทียน เนื่องในวันมาฆบูชา พุทธศักราช ๒๕๖๗ เวลา ๑๘.๓๐ น. เป็นต้นไป
ความสำคัญของวันมาฆบูชา คือเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง โอวาทปาติโมกข์แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา ๙ เดือน ซึ่งหลักคำสอนนี้เป็นหลักการ และวิธีการปฏิบัติต่าง ๆ หากสรุปเป็นใจความสำคัญ จะมีเนื้อหาว่า "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" ทั้งนี้ในวันมาฆบูชาได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นพร้อม ๆ กันถึง ๔ ประการ อันได้แก่
๑. วันนั้นตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ซึ่งพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์
๒. มีพระสงฆ์จำนวน ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ เพื่อสักการะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๓. พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา ๖
๔. พระสงฆ์ทั้งหมดได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า หรือ "เอหิภิกขุอุปสัมปทา"
ดังนั้น เพราะเกิดเหตุอัศจรรย์ ๔ ประการข้างต้น ทำให้วันมาฆบูชา เรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" หมายความว่า "การประชุมด้วยองค์ ๔" นั่นเองทั้งนี้วันมาฆบูชาถือว่าเป็นวันพระธรรม ขณะที่วันวิสาขบูชาถือว่าเป็นวันพระพุทธ ส่วนวันอาสาฬหบูชา เป็นวันพระสงฆ์
แหล่งอ้างอิง:
https://www.facebook.com/chiangrai.culture/posts/pfbid0rEPkiL13LgvWqmeC7DU4fm9zLKNykcN2FYJqvwvo58J718XfDbmkGHyvJRXLmf5wl
เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย การมีส่วนร่วมกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมในมิติศาสนา บำเพ็ญบุญกุศล เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ ซึ่งมีกิจกรรมสำคัญ ดังนี้
๑. การทำวัตรเช้า สวดมนต์ไหว้พระรัตนตรัย
๒. พิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันมาฆบูชา พุทธศักราช ๒๕๖๗
๓. การแสดงธรรมเทศนา ๑ กัณฑ์ โดย พระครูสุธีสุตสุนทร ดร. เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว พระอารามหลวง เรื่อง ความสำคัญของวันมาฆบูชา
๔. การถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์
๕. กิจกรรมปฏิบัติธรรม และรักษาศีล ทั้งในวัดและนอกพื้นที่
๖. การเจริญจิตภาวนา และแผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย
นอกจากนี้จะประกอบพิธีเวียนเทียน เนื่องในวันมาฆบูชา พุทธศักราช ๒๕๖๗ เวลา ๑๘.๓๐ น. เป็นต้นไป
ความสำคัญของวันมาฆบูชา คือเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง โอวาทปาติโมกข์แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา ๙ เดือน ซึ่งหลักคำสอนนี้เป็นหลักการ และวิธีการปฏิบัติต่าง ๆ หากสรุปเป็นใจความสำคัญ จะมีเนื้อหาว่า "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" ทั้งนี้ในวันมาฆบูชาได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นพร้อม ๆ กันถึง ๔ ประการ อันได้แก่
๑. วันนั้นตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ซึ่งพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์
๒. มีพระสงฆ์จำนวน ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ เพื่อสักการะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๓. พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา ๖
๔. พระสงฆ์ทั้งหมดได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า หรือ "เอหิภิกขุอุปสัมปทา"
ดังนั้น เพราะเกิดเหตุอัศจรรย์ ๔ ประการข้างต้น ทำให้วันมาฆบูชา เรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" หมายความว่า "การประชุมด้วยองค์ ๔" นั่นเองทั้งนี้วันมาฆบูชาถือว่าเป็นวันพระธรรม ขณะที่วันวิสาขบูชาถือว่าเป็นวันพระพุทธ ส่วนวันอาสาฬหบูชา เป็นวันพระสงฆ์
