


ปฎิทินวัฒนธรรม
ประเพณีกำฟ้าไทยพวน
จำนวนผู้ชม 1,339 ครั้ง

๑๔
ม.ค. ๖๔
๑๗
ม.ค. ๖๔

๑๔
ม.ค. ๖๔
๑๗
ม.ค. ๖๔

๑๔
ม.ค. ๖๔
๑๗
ม.ค. ๖๔

๑๔
ม.ค. ๖๔
๑๗
ม.ค. ๖๔

๑๔
ม.ค. ๖๔
๑๗
ม.ค. ๖๔





จากคำบอกเล่าของคนแก่คนเฒ่าในหมู่บ้านเล่าว่าบ้านทุ่งโฮ้ง เป็นหมู่บ้านของชาวไทยพวนที่ถูกกวาดต้อน และอพยพมาจากแขวงเมือง เชียงขวางประเทศลาวเมื่อประมาณ พ.ศ. 2340 – 2350 โดยคนกลุ่มแรกได้เดินทางมาถึง เมืองแพร่และได้ตั้งบ้านเรือนอยู่นอกกำแพงเมือง ทางทิศเหนือด้านประตูเลี้ยงม้า คือวัดสรรคนิเวศในปัจจุบัน อยู่มาระยะหนึ่งจึงได้ย้ายมาจากที่เดิมมาตั้งหมู่บ้านขึ้นใหม่ บริเวณที่เป็นบ้านทุ่งโฮ้งใต้ในปัจจุบันและอยู่กันเรื่อยมาจนประมาณ พ.ศ. 2360 - 2380 จึงมีกลุ่มไทยพวนกลุ่มใหญ่ อพยพเข้ามาบ้า
นทุ่งโฮ้งหรือเดิม เรียกว่า บ้านทั่งโห้ง คำว่า "ทั่ง” หมายถึง ทั่งรองรับตีเหล็กส่วน คำว่า "โห้ง” เป็นภาษาไทยพวน หมายถึง สถานที่เป็นแอ่งลึกลงไปเป็นรูปก้นกระทะ ทั่งเมื่อถูกตีเป็นประจำจึงทำให้มันเป็นแอ่งลึกลงไปคนพวนเรียกว่า "มันโห้งลงไป” ในสมัยก่อนนั้น คนพวนบ้านทุ่งโฮ้งจะมีเตาตีเหล็กกันแทบทุกหลังคาเรือน เขาจึงเรียกว่า "บ้านทั่งโห้ง” ต่อมาได้เรียกเสียงเพี้ยนไปเป็น "ทุ่งโฮ้ง” ชาวไทยพวนบ้านทุ่งโฮ้ง มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากชาวพื้นเมืองทั่วไป คือ ภาษาพูดมีประเพณี วัฒนธรรมที่แตกต่างและโดดเด่น คือ ประเพณีกำฟ้า ตามตำนานกล่าวว่า เจ้าชมภู กษัตริย์ผู้ครองเมืองพวน ได้ยกทัพไปรบกับหลวงพระบางได้ชัยชนะ หลังจากยกทัพกลับเมืองพวนแล้ว เจ้าชมพูก็ไม่ยอมตกเป็นเมืองขึ้นของหลวงพระบางและเวียงจันทน์อีกต่อไป จึงประกาศเป็นเอกราช เจ้านนท์แห่งนครเวียงจันทน์ จึงยกทัพไปปราบเมืองพวนและจับเจ้าชมภูประหารชีวิต ในขณะที่ทำพิธีการอยู่นั้น เกิดฟ้าผ่าถูกด้ามหอกที่จะใช้ประหารชีวิตเจ้าชมภูหักสะบั้นลงทหารแห่งเมืองเวียงจันทน์เตลิดกระเจิงหนี เจ้านนท์ทราบเหตุอัศจรรย์จึงรับสั่งให้นำเจ้าชมภูกลับไปครองเมืองพวนตามเดิม
ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จึงเกิดการนับถือฟ้าและประเพณีกำฟ้า มาจนถึงทุกวันนี้ พอถึงวันงานกำฟ้าทุกคนจะต้องหยุดทำงานและให้มาร่วมสนุกสนาน ทำบุญ ถ้าไม่เชื่อฟัง ออกไปทำงานอาจถูกฟ้าผ่าตายได้
แหล่งอ้างอิง:
นทุ่งโฮ้งหรือเดิม เรียกว่า บ้านทั่งโห้ง คำว่า "ทั่ง” หมายถึง ทั่งรองรับตีเหล็กส่วน คำว่า "โห้ง” เป็นภาษาไทยพวน หมายถึง สถานที่เป็นแอ่งลึกลงไปเป็นรูปก้นกระทะ ทั่งเมื่อถูกตีเป็นประจำจึงทำให้มันเป็นแอ่งลึกลงไปคนพวนเรียกว่า "มันโห้งลงไป” ในสมัยก่อนนั้น คนพวนบ้านทุ่งโฮ้งจะมีเตาตีเหล็กกันแทบทุกหลังคาเรือน เขาจึงเรียกว่า "บ้านทั่งโห้ง” ต่อมาได้เรียกเสียงเพี้ยนไปเป็น "ทุ่งโฮ้ง” ชาวไทยพวนบ้านทุ่งโฮ้ง มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากชาวพื้นเมืองทั่วไป คือ ภาษาพูดมีประเพณี วัฒนธรรมที่แตกต่างและโดดเด่น คือ ประเพณีกำฟ้า ตามตำนานกล่าวว่า เจ้าชมภู กษัตริย์ผู้ครองเมืองพวน ได้ยกทัพไปรบกับหลวงพระบางได้ชัยชนะ หลังจากยกทัพกลับเมืองพวนแล้ว เจ้าชมพูก็ไม่ยอมตกเป็นเมืองขึ้นของหลวงพระบางและเวียงจันทน์อีกต่อไป จึงประกาศเป็นเอกราช เจ้านนท์แห่งนครเวียงจันทน์ จึงยกทัพไปปราบเมืองพวนและจับเจ้าชมภูประหารชีวิต ในขณะที่ทำพิธีการอยู่นั้น เกิดฟ้าผ่าถูกด้ามหอกที่จะใช้ประหารชีวิตเจ้าชมภูหักสะบั้นลงทหารแห่งเมืองเวียงจันทน์เตลิดกระเจิงหนี เจ้านนท์ทราบเหตุอัศจรรย์จึงรับสั่งให้นำเจ้าชมภูกลับไปครองเมืองพวนตามเดิม
ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จึงเกิดการนับถือฟ้าและประเพณีกำฟ้า มาจนถึงทุกวันนี้ พอถึงวันงานกำฟ้าทุกคนจะต้องหยุดทำงานและให้มาร่วมสนุกสนาน ทำบุญ ถ้าไม่เชื่อฟัง ออกไปทำงานอาจถูกฟ้าผ่าตายได้
