


ปฎิทินวัฒนธรรม
ประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี
จำนวนผู้ชม 4,101 ครั้ง

๑o
ก.พ. ๖๗
o๙
เม.ย. ๖๗

๑o
ก.พ. ๖๗
o๙
เม.ย. ๖๗

๑o
ก.พ. ๖๗
o๙
เม.ย. ๖๗

๑o
ก.พ. ๖๗
o๙
เม.ย. ๖๗




จัดขึ้นระหว่างวันขึ้น ๑ ค่ำเดือน ๓ ไปจนถึงขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ งานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี ถือเป็นประเพณี อันศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานหลายสิบปี โดยมีความเชื่อว่าการเดินป่า ขึ้นยอดเขาคิชฌกูฏ จะได้บุญสูง และยังช่วยฝึกจิตใจฝึกความมานะอดทนไม่ย่อท้อ ต่อความยากลำบาก ครั้งหนึ่งในชีวิตควรหาโอกาสสักครั้งที่จะได้ขึ้นเขามานมัสการ รอยพระพุทธบาทบนเขาคิชฌกูฏแห่งนี้ และการได้มากราบไหว้ ขอพรรอยพระพุทธบาท เหมือนได้เข้าเฝ้าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะสร้างความสุขแก่ครอบครัวและชีวิต จะเริ่มเปิดให้พุทธศาสนิกชน นักแสวงบุญ นักท่องเที่ยว ได้ขึ้นไปนมัสการ รอยพระพุทธบาทบนเขาคิชฌกูฏ ยอด "เขาคิชฌกูฏ" ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เขาคิชฌกูฏ ที่จังหวัดจันทบุรี เป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาท ที่อยู่สูงที่สุดในประเทศไทยสูงกว่า ๑,๐๕๐ เมตร จากระดับน้ำทะเล ถือว่าสูงที่สุด ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ "รอยพระพุทธบาท" มีลักษณะเป็นรอยบนหิน แผ่นใหญ่ มีรอยลึกประมาณ ๒ เมตรเศษ กว้าง ๑ เมตร ยาว ๒ เมตร ค้นพบที่ ยอดเขาพระบาทห่างจากที่ทำการอุทยานเขาคิชฌกูฏราว ๔ กม.
ที่มาของชื่อเขาคิชฌกูฏนั้น ในตำนานศาสนาพุทธกล่าวไว้ว่า เขาคิชฌกูฎ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงราชคฤห์ แคว้นมคธเป็นยอดเขาที่มีแนวเขา ล้อมโดยรอบ และเคยเป็นสถานที่ประทับของพระพุทธเจ้าในอดีต เป็นความดำริ ของพระครูธรรมสรคุณ(ท่านพ่อเขียน) ซึ่งเป็นกรรมการและเป็นหลักในการพัฒนาพระบาทพลวงตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้เสนอใช้ชื่อ พระบาทเขาคิชฌกูฎ (พลวง) เป็นที่ระลึกถึงพระบรมศาสดา ในทุกๆ ปีจะมีพิธีเปิดและพิธีปิดการขึ้นไปนมัสการ รอยพระพุทธบาทเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ พระครูธรรมสรคุณ ยังได้สอนว่า "เท้าของพระพุทธองค์ แม้ประดิษฐานอยู่แห่งหน ตำบลใดก็ตาม ถ้าเรามีความเชื่อมั่น เคารพกราบไหว้ด้วยใจ อธิษฐานแล้ว ย่อมเกิดผลสำเร็จแก่ผู้นั้นทุกคนและเป็นสิริมงคล แก่ผู้นั้นตลอดไป"
แหล่งอ้างอิง:
ที่มาของชื่อเขาคิชฌกูฏนั้น ในตำนานศาสนาพุทธกล่าวไว้ว่า เขาคิชฌกูฎ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงราชคฤห์ แคว้นมคธเป็นยอดเขาที่มีแนวเขา ล้อมโดยรอบ และเคยเป็นสถานที่ประทับของพระพุทธเจ้าในอดีต เป็นความดำริ ของพระครูธรรมสรคุณ(ท่านพ่อเขียน) ซึ่งเป็นกรรมการและเป็นหลักในการพัฒนาพระบาทพลวงตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้เสนอใช้ชื่อ พระบาทเขาคิชฌกูฎ (พลวง) เป็นที่ระลึกถึงพระบรมศาสดา ในทุกๆ ปีจะมีพิธีเปิดและพิธีปิดการขึ้นไปนมัสการ รอยพระพุทธบาทเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ พระครูธรรมสรคุณ ยังได้สอนว่า "เท้าของพระพุทธองค์ แม้ประดิษฐานอยู่แห่งหน ตำบลใดก็ตาม ถ้าเรามีความเชื่อมั่น เคารพกราบไหว้ด้วยใจ อธิษฐานแล้ว ย่อมเกิดผลสำเร็จแก่ผู้นั้นทุกคนและเป็นสิริมงคล แก่ผู้นั้นตลอดไป"
