


ปฎิทินวัฒนธรรม
ประเพณีลอยกระทงและแข่งขันเรือยาววิถีโค้งลำน้ำกุดป่อง เทศบาลเมืองเลย
จำนวนผู้ชม 69 ครั้ง

๒๑
พ.ย. ๖๖
๒๙
พ.ย. ๖๖

๒๑
พ.ย. ๖๖
๒๙
พ.ย. ๖๖
.png)
๒๑
พ.ย. ๖๖
๒๙
พ.ย. ๖๖
.png)
๒๑
พ.ย. ๖๖
๒๙
พ.ย. ๖๖

๒๑
พ.ย. ๖๖
๒๙
พ.ย. ๖๖


.png)
.png)

ประเพณีลอยกระทงที่เทศบาลเมืองเลย ได้สืบสาน อนุรักษ์ วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามมาโดยตลอด มีมิติใหม่ในการลอยกระทงรางน้ำ เป็นไฮไลท์ เป็นสิ่งแปลกใหม่ เพื่อสร้างสรรค์ ส่งเสริมความสามัคคีของพี่น้องประชาชน รู้รัก ร่วมสามัคคี เป็นการขอขมา บูชาพระแม่คงคา ลอยทุกข์ ลอยโศก ลอยเศร้าไปกับแม่น้ำคงคา ต่อองค์ปู่ไหลคำมาพญานาคซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นประเพณีที่ดีงามและปฏิบัติยึดถือทำให้ดีขึ้นโดยตลอด
ไฮไลท์อีกอย่างของงานนี้คือ “การแข่งขันเรือยาว วิถีโค้ง แห่งเดียวในประเทศไทยและแห่งเดียวของโลก” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ครั้งที่9) ในวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2566 ส่งเสริมการออกกำลังกาย สร้างเสริมความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา สร้างความรักความสามัคคี ความสมานฉันท์ของหมู่คณะ รวมถึง ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเลย โดยมีการแข่งขัน 2 ประเภท ได้แก่ ประเภททีมเรือยาวไม่เกิน 30 ฝีพาย และประเภททีมเรือยาวไม่เกิน 10 ฝีพาย ที่สนามลำน้ำกุดป่อง อำเภอเมืองเลย มีเรือเข้าร่วมการแข่งขันประเภทละ 12 ทีม โดยในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 แข่งขัน รอบคัดเลือก แบ่งเป็น 4 สาย แข่งขันแบบพบกันหมด มีการสลับร่องน้ำแต่ละคู่แข่งขัน เพื่อหาผู้ชนะที่มีคะแนนอันดับ 1 และอันดับ 2 ของแต่ละสายไปแข่งขันรอบตัดเชือก วันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 แข่งขันรอบตัดเชือก
เป็นการสืบสืบสาน อนุรักษ์ วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม พร้อมกับขับเคลื่อน "พลังสร้างสรรค์" หรือซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ผ่านภูมิปัญญาที่มีในท้องถิ่น พื้นที่ใกล้เคียง และต่างประเทศ อาทิ เครือข่ายจากจังหวัดอุดรธานี เชียงราย พิจิตร หนองคาย สปป.ลาว เป็นต้น ร่วมบูรณาการต่อยอดการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม และเกิดความภาคภูมิใจ สร้างสีสัน บรรยากาศที่สนุกสนาน สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในจังหวัดเลยและพื้นที่ใกล้เคียง
แหล่งอ้างอิง:
ไฮไลท์อีกอย่างของงานนี้คือ “การแข่งขันเรือยาว วิถีโค้ง แห่งเดียวในประเทศไทยและแห่งเดียวของโลก” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ครั้งที่9) ในวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2566 ส่งเสริมการออกกำลังกาย สร้างเสริมความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา สร้างความรักความสามัคคี ความสมานฉันท์ของหมู่คณะ รวมถึง ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเลย โดยมีการแข่งขัน 2 ประเภท ได้แก่ ประเภททีมเรือยาวไม่เกิน 30 ฝีพาย และประเภททีมเรือยาวไม่เกิน 10 ฝีพาย ที่สนามลำน้ำกุดป่อง อำเภอเมืองเลย มีเรือเข้าร่วมการแข่งขันประเภทละ 12 ทีม โดยในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 แข่งขัน รอบคัดเลือก แบ่งเป็น 4 สาย แข่งขันแบบพบกันหมด มีการสลับร่องน้ำแต่ละคู่แข่งขัน เพื่อหาผู้ชนะที่มีคะแนนอันดับ 1 และอันดับ 2 ของแต่ละสายไปแข่งขันรอบตัดเชือก วันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 แข่งขันรอบตัดเชือก
เป็นการสืบสืบสาน อนุรักษ์ วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม พร้อมกับขับเคลื่อน "พลังสร้างสรรค์" หรือซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ผ่านภูมิปัญญาที่มีในท้องถิ่น พื้นที่ใกล้เคียง และต่างประเทศ อาทิ เครือข่ายจากจังหวัดอุดรธานี เชียงราย พิจิตร หนองคาย สปป.ลาว เป็นต้น ร่วมบูรณาการต่อยอดการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม และเกิดความภาคภูมิใจ สร้างสีสัน บรรยากาศที่สนุกสนาน สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในจังหวัดเลยและพื้นที่ใกล้เคียง
